ผิวขาดน้ำ ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพผิวที่อาจเป็นกันได้บ่อย แถมถ้าเป็นแล้วก็อาจจะเป็นสาเหตุหลัก ให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้อีกด้วย ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะ ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะถ้าหากปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรัง อาจจะทำให้ผิวของคุณเสียจนยากที่จะฟื้นฟูให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งได้ – ผิวขาดน้ำ

ผิวขาดน้ำ

น้ำใต้ผิวทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น เมื่อผิวหนังมีความชุ่มชื้นเป็นปกติ ผิวหนังจะดูสวยงาม มีความเรียบ นุ่มเนียน ทั้งนี้ในชั้นขี้ไคล จะต้องมีน้ำมากกว่า 10% ของส่วนประกอบทั้งหมด เพื่อให้ส่วนประกอบต่างๆ บนผิว ทำหน้าที่ต่อไปนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

> รักษาคุณสมบัติในการกักน้ำ

> รักษาคุณสมบัติของการทำงานของเอนไซม์ต่างๆทำงานได้ปกติ

> รักษาสภาพของผิวหนังให้ดูสวยงามและนุ่มเนียนเวลาสัมผัส

ถ้าคุณสมบัติเหล่านี้เสียไปเพราะขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น จากสาเหตุใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบ ความแห้งของอากาศ การลอกผิวหนั้งชั้นหนังกำพร้ามากเกินไป ผิวก็จะยิ่งแห้งมากขึ้นเรื่อยๆ และเกิดเป็นสภาพที่เรียกว่า วงจรร้าย

วิธีการสังเกตผิวหนังของตัวเองอย่างง่าย ๆ

  1. สังเกตผิวหนังภายนอกเหมือนมีน้ำมันออกมาเคลือบ
  2. เมื่อดูผิวหนังใกล้ๆ จะเห็นริ้วๆ หรือกร้านๆ
  3. ลูบผิวดูแล้วจะรู้สึกว่าผิวไม่นุ่มเนียน ไม่เรียบ ถ้าเป็นมากอาจรู้สึกว่าผิวสากๆ
  4. อาการจะเป็นมากประมาณสายๆ หรือช่วงบ่ายๆ ของวัน พอซับมันแล้วเติมแป้งจะไม่เรียบเนียนเหมือนแต่งตอนเช้า
  5. แต่งหน้าไม่ติด รองพื้นเป็นคราบระหว่างวัน ทาครีมไม่ค่อยซึม แม้ว่าอาการจะคล้ายกับคนผิวแห้ง แต่ผิวแห้งยังสามารถซึมซับผลิตภัณฑ์และเกลี่ยได้ง่ายตามปกติ แต่ผิวขาดน้ำผิวจะไม่ดูดซึมเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นเลย
  6. ผิวหน้าดูอ่อนล้า ไม่สดใส ผิวขาดน้ำจะดูหยาบกร้าน สัมผัสแล้วมีความสาก ไม่นุ่มเนียน และดูหย่อนคล้อยขาดความกระชับ
  7. แพ้ง่าย เพราะความชุ่มชื่นเปรียบเสมือนเกราะคุ้มกันผิว หากผิวขาดน้ำแล้วย่อมทำให้ไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ ได้ง่ายเนื่องจากผิวอ่อนแอ

ส่วนผิวขาดน้ำเกี่ยวกับผิวมันอย่างไรนั้น เมื่อผิวขาดน้ำก็เสมือนว่าผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวจะพยายามผลิตน้ำมันออกมาเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป จึงทำให้ผิวมีความมันมากกว่าปกติ ทั้งๆที่อาการขาดน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไข หากปล่อยไว้นานจะทำให้ผิวหนังสูญเสียการทำงาน ขาดความกระชับ ยืดหยุ่น และนำไปสู่ผิวอ่อนแอในที่สุด

ผิวขาดน้ำ_Bwarin2

การดูแลรักษาอาการ ผิวขาดน้ำ ด้วยการดื่มน้ำ

1.ดื่มน้ำสะอาดมากๆ โดยให้ดื่มน้ำวันละ 10 แก้ว หรือประมาณ 1.5 – 2.0 ลิตรทุกวัน นอกจากจะช่วยรักษาอาการผิวขาดน้ำได้แล้วยังจะทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย

2.หลังตื่นนอนควรดื่มน้ำอุ่นทันที 1-2 แก้ว ก่อนการแปรงฟันและทานมื้อเช้า เพื่อกระตุ้นการขับถ่าย และเพื่อสุขภาพที่ดี ไม่ควรดื่มน้ำก่อนอาหาร 15 นาที และหลังอาหาร 40 นาทีนะคะ

3.ระหว่างวัน ควรดื่มน้ำอุณหภูมิปกติ หรืออุณหภูมิห้อง เป็นระยะโดยจิบครั้งละ 2-3 อึก การจิบบ่อยๆ นี่จะทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

4.ก่อนเข้านอนสัก 30 นาที ให้ดื่มน้ำอุ่นอีก 1 แก้ว จะช่วยรักษาสมดุลของสุขภาพและผิวพรรณได้เป็นอย่างดี

 

การดูแลรักษาสภาวะผิวขาดน้ำหรือสูญเสียน้ำไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก แค่หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น พฤติกรรมการดื่มน้ำน้อย อยู่ในห้องแอร์เป็นส่วนใหญ่ ชอบอาบน้ำอุ่น หลังจากล้างหน้าแล้วไม่รีบทามอยซ์เจอไรซ์เซอร์ทันที ไม่ค่อยทาครีมกันแดด ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ มีฤทธิ์ในการชะล้างรุนแรง ดังนั้นต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน ใช้ครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว หลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดประจำ ก็จะลดปัญหาผิวขาดน้ำ และได้คืนผิวเนียนสวยอีกด้วย