เคยสงสัยหรือเปล่าว่า ทำไมขั้นตอนท้ายสุดของการทำความสะอาดผิวหน้า จึงต้องใช้โทนเนอร์แล้วรู้หรือเปล่าว่าความจริงแล้วมันคืออะไร ช่วยอะไร ควรต้องใช้หรือเปล่า สาวๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยิน หรือเคยได้ลองใช้เจ้า “โทนเนอร์” กันมาบ้างแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรและมีความดีงามอย่างไรบ้าง – โทนเนอร์

การเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยการใช้โทนเนอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาด ผิวไม่มัน ทำให้สิวขึ้นน้อยลง และทำให้รูขุมกระชับมากขึ้น โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบ

> แบบแรกคือ แบบช่วยกำจัดสิ่งสกปรก ซึ่งการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่เพียงพอ พวกเศษเสี้ยวของฝุ่นละออง และเครื่องสำอาง บางครั้งมันจะยังคงหลงเหลืออยู่ตามซอกรูขุมขน และเมื่อออกไม่หมดก็เป็นหนทางสู่การเกิดอุดตัน ความมัน สิว ดังนั้นในแบบชนิดนี้จึงทำหน้าที่ในการชะล้างสิ่งเหล่านั้นออกทำให้ผิวหน้าสะอาดหมดจดยิ่งขึ้น

> แบบที่สองคือ แบบบำรุงผิว ประเภทนี้ก็จะเน้นเรื่องการบำรุงอาหารผิวเข้าสู่ผิวเป็นหลัก ด้วยความที่เป็นสารประเภทของเหลว ทำให้สามารถซึมสู่ผิวได้ดี และรู้สึกบางเบาพร้อมกับช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมัน เป็นตัวช่วยในการนำสารอาหารผิวในขั้นตอนตอนไปซึมลงสู่ผิวได้ดีมากขึ้น

แต่เดี๋ยวก่อน! การเลือกโทนเนอร์ที่ได้ตรงความเหมาะสม ดีต่อใจแล้วดีกับผิวด้วยเนี่ยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ จะใช้ให้ผิวดี ผิวใส ขจัดความมัน ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเองด้วย

• ผิวมันหรือผิวแบบผสม ควรเลือกใช้แบบที่ขจัดความมัน เพื่อลดปัญหาสิวอุดตันที่จะเกิดขึ้นกับใบหน้าสวยๆ
• ผิวแห้ง ควรเลือกใช้แบบที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
• ผิวที่มีริ้วรอย เพื่อคงสภาพผิวหน้าอ่อนเยาว์เอาไว้คือนอกจะให้ความชุ่มชื้นแล้วยังต้องป้องกันผิว ดูแลเรื่องริ้วรอยและต้องผลัดเซลล์ผิวได้ในขวดเดียวกันอีกด้วย

ดังนั้นประโยชน์ของโทนเนอร์ คือ โลชั่นเช็ดผิว มีหน้าที่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างจากการล้างทำความสะอาดใบหน้า ช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมก่อนการทาครีมบำรุงผิว เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และของที่ดีควรมีส่วนผสมของวิตามินและเกลือแร่ที่มีสารประกอบเพื่อช่วยในการบำรุงผิว ช่วยลดความมัน กระชับรูขุมขนสำหรับคนผิวมัน ช่วยเติมความชุ่มชื้นสำหรับคนผิวแห้ง แต่ของที่ดีอาจจะมีราคาแพง แต่เมื่อเทียบกับผลที่ได้แล้วนับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก

วิธีใช้ โทนเนอร์ อย่างถูกต้อง

1.หลังทำความสะอาดใบหน้า ควรซับใบหน้าด้วยกระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าที่มีความอ่อนนุ่ม หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดหน้า เพราะอาจทำให้หน้าเป็นรอย ไม่สามารถซับน้ำบนใบหน้าได้ดีเท่ากับกระดาษเช็ดหน้า

2.ใช้สำลีแผ่นสำหรับเครื่องสำอางแทนการใช้สำลีแผ่นทั่วไป เนื่องจากสำลีแผ่นสำหรับเครื่องสำอางมีความบาง เนื้อแผ่นแน่นมากกว่า จึงช่วยประหยัดการใช้ โดยการหยดลงไปเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้เช็ดได้ทั่วทั้งใบหน้า ไม่ทำให้มีเนื้อสำลีหลุดติดบนใบหน้า

3.หยดผลิตภัณฑ์ลงบนสำลีแผ่น ให้จับสำลีแผ่นอย่างถูกวิธีโดยการวางแผ่นสำลีเอาไว้ตรงกลาง โดยใช้นิ้วนางกับนิ้วชี้หนีบสำลีเอาไว้ไม่ให้หลุด เพื่อช่วยทำให้เช็ดใบหน้าได้อย่างนุ่มนวล ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ง่าย

4.เริ่มเช็ดหน้าเบา ๆ ทีละครึ่งหน้า เพื่อให้สามารถทำความสะอาดใบหน้าได้อย่างทั่วถึง เช็ดจากล่างขึ้นบน เพื่อเปิดรูขุมขน จะทำให้สารอาหารซึมเข้าสู่ใต้ผิว ทำให้ทำความสะอาดได้อย่างหมดจด เมื่อเช็ดใบหน้าครึ่งแรกเสร็จ ก็ให้พลิกสำลีอีกด้าน หรือจะเปลี่ยนแผ่นใหม่ไปเลยก็ยังได้ เพื่อเช็ดใบหน้าส่วนที่เหลือโดยการเช็ดจากล่างขึ้นบนเหมือนกัน

5.นำแผ่นสำลีที่เช็ดทำความสะอาดใบหน้า เช็ดบริเวณลำคอและท้ายทอย เพราะจะต้องทาครีมบำรุงบริเวณลำคอด้วยนั่นเอง

การใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดใบหน้า จะช่วยทำให้การบำรุงผิวเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยทำให้ครีมบำรุงผิวซึมลึกมากขึ้น ยังช่วยทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจด จึงช่วยลดปัญหาสิวบนใบหน้า