หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า 4 สาว Blackpink จะไม่ต่อสัญญากับ YG Entertainment เพราะอาจย้ายไปผงาดกับค่าย The Black Label หรือค่ายอื่น แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับค่ายที่ปลุกปั้นพวกเธอขึ้นมาหากไม่ต่อสัญญาจริงๆ และ YG จะทำอย่างไรต่อไป

YG สั่นคลอน! หากแบล็กพิงก์ไม่ต่อสัญญา

แบล็คพิงก์_ต่อสัญญา
ภาพ : Live Nation

รายได้ลดฮวบ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ก็คือรายได้ของบริษัทต้องหายไปอย่างแน่นอน เพราะ Blackpink เป็นศิลปินระดับต้นๆของค่ายที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทเป็นกอบเป็นกำ อ้างอิงจากปี 2020 ที่แม้จะอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด 19 แต่ Blackpink ยังคงทำยอดขายไปได้ถึง 2 แสนล้านวอน หรือ 7 พันล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรถึง 1 หมื่นล้านวอนหรือเกือบๆ 300 ล้านบาท หาก 4 สาวไม่ได้อยู่กับ YG แล้วรายได้ของบริษัทจะต้องลดฮวบแน่ๆ

หุ้นร่วง

เพราะ Blackpink เป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีอิทธิพลกับวงการแฟชั่น จึงสร้างรายได้ให้กับทางค่ายอย่างมหาศาล ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้นของ YG หลายราย ทันทีที่ข่าวลือลิซ่าจะไม่ต่อสัญญาแพร่สะพัดออกไป ก็ทำให้หุ้นของ YG ร่วงลงถึง 1.33 %  รวมถึงในปี 2021 ที่ทางต้นสังกัดได้ประกาศห้ามลิซ่าเข้าร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นยุโรป ส่งผลให้ราคาหุ้นถึงกับตกลง 0.15 % ภายในวันเดียว! หากทั้งวงไม่ต่อสัญญา คงอดคิดไม่ได้ว่าหุ้นของ YG จะเป็นอย่างไร

หาก 4 สาวไม่ต่อสัญญา ผู้ถือหุ้นอาจทยอยบอกลาหุ้นของ YG ก็เป็นได้ เพราะป้ายชื่อของ Blackpink ที่ทรงอิทธิพลเป็นวงกว้างและมีมูลค่าทางการตลาดสูงมากขึ้นเรื่อยๆ YG จะเดินเกมอย่างไร เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ที่ว่าไว้ข้างต้นเกิดขึ้นกันนะ..

หงายการ์ดเดินเกม..เปิดแผนสำรอง

จ่ายให้หนักเพื่อให้อยู่ต่อ

ถ้า YG ยังอยากมี Blackpink อยู่ในชายคาต่อไป อาจจะต้องจ่ายเงินจำนวนมาก เพราะมีคู่แข่งหลายๆ ค่ายพร้อมยื่นข้อเสนอด้วยเงินจำนวนมหาศาลให้กับสาวๆ Blackpink สิ่งที่ YG ต้องทำก็คือการยื่นข้อเสนอที่คุ้มค่ากว่าเพื่อรั้ง Blackpink ไว้โดยมีแหล่งข่าวระบุว่า YG อาจจะต้องยื่นข้อเสนอด้วยเงิน 2 หมื่นล้านวอนหรือ 530 ล้านบาทต่อคน เพื่อเซ็นสัญญากันเลยทีเดียว

Babymonster
ภาพ : TNN Thailand

โปรเจ็คดันน้องใหม่

ในช่วงที่ผ่านมาเราคงได้เห็นเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ อย่าง Baby Monster ที่ทางค่ายตั้งใจปั้นหวังให้สานต่อความสำเร็จ และแทนที่รุ่นพี่ก็เป็นได้ อีกเหตุผลที่ YG จะปั้นวงน้องใหม่แบบเต็มคาราเบลอาจเป็นเรื่องอายุ ที่อายุของสมาชิก Baby Monster ยังไม่ถึง 20 ซึ่งถือว่ายังไม่มาก ต่างจาก Blackpink ที่อยู่ในวัย 20 กลางๆ –  ปลาย จึงเป็นอะไรที่คุ้มค่าในการลงทุนโปรโมต เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับค่ายได้ยาวๆ

เหล่านี้คือสิ่งที่“อาจ”เกิดขึ้นกับ YG Entertainment “หาก” Blackpink ไม่ต่อสัญญา และทั้งหมดที่กล่าวมายังเป็นเพียงการคาดคะเนจากสถานการณ์ที่น่าจะมีความเป็นไปได้เท่านั้น และในเดือนสิงหาคมปีนี้ เราคงได้เห็นความชัดเจนหลายๆ อย่างกันมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ พวกเราชาวบลิ้งค์ก็จะสนับสนุนทั้ง 4 สาวต่อไปเนอะ

อ้างอิง
Sanook
The Bangkok Insight
TNN Thailand 
Bestreview Asia